7 The most Romantic City


ข้ึนชื่อสุดๆ ด้านการเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับของฝั่งยุโรป เวนิซเป็นเมืองเก่าแก่ สวยงาม เดินทางกันด้วยเรือเป็นหลัก พูดถึงเวนิซ “กอนโดล่า” ก็เป็นภาพแรกที่ลอยขึ้นมา เป็นเรือที่ใครๆ หลายๆ คนอยากไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต การได้ล่องเรือกอนโดล่าชมเมืองก็เป็นหนึ่งกิจกรรที่คู่รักอยากทำร่วมกัน 

นอกจากกอนโดล่าแล้ว ความเป็นเวนิซ อีตาลี่ก็ชนะทุกอย่างเรื่องความโรแมนติค แค่ได้เดินข้างๆ กันในเมืองนี้ก็โรแมนติคมากๆ แล้ว



ตัดภาพกลับมาที่ฝั่งเอเชียเราบ้าง ที่ก็โรแมนติคไม่ได้แพ้ใครนะสำหรับญี่ปุ่นเมืองท็อปฮิตของนักท่องเที่ยวชาวไทย คราวนี้ไม่ไปโตเกียวจะลงไปที่คิวชูกัน เจอกับความสวยของอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่สวนคาวาชิฟูจิ (Kawachi Fuji Garden) เข้าไป ก็ตะลึงกันไปหมดกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งรอบอุโมงค์ระยะทางกว่า 100 เมตร เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ในเทพนิยายจริงๆ แบบนี้จะไม่โรแมนติคได้ไง

อยากจะไปแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน นักท่องเที่ยวแพลนกันดีๆ เนื่องจากดอกวิสทีเรียที่นี่จะบานสะพรั่งพีคที่สุดแค่ช่วงปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤษภาคมเท่านั้นไม่ได้บานทั้งปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีด้วย) เพราะฉะนั้นจะไปเช็คอากาศกันอีกทีนะ


จะไม่โรแมนติคได้ยังไง เพราะนี่คือปราสาท Neuschwanstein ที่เป็นต้นแบบของปราสาทของดิสนีย์กันเลยทีเดียว มาที่นี่ ไม่ต้องจินตนาการว่าเป็นเจ้าหญิงอยู่ท่ามกลางเทพนิยายเพราะนี่คือเทพนิยายของจริง เป็นปราสาทที่สวยมากๆ และบรรยากาศโดยรอบปราสาท ก็สวยมากๆ ถ้าแพลนมาเยอรมันต้องพาคนรักมาที่นี่ รับรองว่าคุณผู้หญิงจะต้องชื่นชอบ รู้สึกเป็นเจ้าหญิงและเป็นความทรงที่ดีมากๆ แน่นอน


ยังไงที่นี่ก็คืออันดับ 1 เสมอสำหรับปารีส จนภาพของไอเฟลทาวเวอร์ จะกลายเป็นเแลนด์มาร์คของความโรแมนติคจนหลายคู่แพลนไปขอแต่งงานกันที่หน้าไอเฟลกันหลายต่อหลายคู่มาแล้ว บางคนจะฮันนีมูนก็อยากมาที่นี่กัน ด้วยความสวยของเมือง ถ้าอากาศหนาวก็ไม่ต้องพูดถึง โรแมนติคสุดๆ คือถ้าอยากควงแขนกันไปโรแมนติคก็ต้องที่นี่ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเลยสำหรับเมืองนี้


แค่มองบรรยากาศในภาพก็ไม่ต้องอธิบายด้วยตัวอักษรแล้วว่า เมืองนี้โรแมนติคยังไง ยิ่งดูภาพยิ่งดูบรรยากาศ ก็จะเห็นว่าเป็นเมืองที่ทำอะไรก็สวยก็โรแมนติคไปหมด ยุโรปเป็นอะไรที่โรแมนติคด้วยตัวของตัวเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าจะมาเก็บเมืองโรแมนติคฝั่งยุโรปแล้ว เวียนนา ออสเตรีย เป็นเมืองที่คุ้มค่าแก่การมาสัมผัสช่วงเวลาโรแมนติคเอามากๆ 


เมืองหลวงเก่าของกรีซ และเป็นเมืองที่ติด The Most Romactic City อีกเมืองของกรีซไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่อยู่ไม่ห่างจากเอเธนส์ ใช้เวลาเดินทางไม่มาก นักท่องเที่ยวสายยุโรปโรแมนติคหลายท่านจึงไม่พลาดที่จะจัดแพลนมาที่นี่ด้วย 

เมืองจะมีส่วนติดทะเล ร้านอาหารร้านกาแฟบรรยาชากาศดีเต็มไปหมด ไฮไลท์อยู่ที่ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกดิน ทะเลจะคล่อยๆ เปลี่ยนจากสีฟ้าสดเป็นสีชมพูแล้วแดงในที่สุด ก่อนจะมืดไป ชายหาดก็จะเหมือนถูกระบายสีชมพูสีแดงอย่างไงอย่างงั้นเลย

ส่วนที่เห็นลอยอน้ำอยู่ในภาพคือปราสาท Bourtzi เมื่อก่อนเคยเป็นทั้งคุก เป็นโรงแรม ตอนนี้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีปราสาท Palamidi ที่อยู่บนยอดเขา มีชื่อเสียงมากเช่นกัน


นี่ไม่ใช่ภาพวาด แต่คือภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจริงๆ และถูกถ่ายมาโดยช่างภาพจริงๆ หาดที่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสร้างมาให้เราได้อึ้งทึ่งตะลึงกันไปด้วยชายหาดเรืองแสงสีน้ำเงินออกมาตอนกลางคืน เป็น Glitterring Beach ของจริง เกิดจากการเรืองแสงของแพลงตอน ลองเสิร์ช Vaadhoo Maldives ดู แค่นี้ก็แทบจะจองตั๋วไปเมาดีฟส์ซะตอนนี้เลย

แค่ลองคิดดูว่า การได้จูงมือคนรักอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ จะโรแมนติคขนาดไหน ทะเล เสียงคลื่นมาเต็มขนาดนี้ บรรยากาศไม่เป็นใจก็ให้มันรู้ไป





Cr: https://www.facebook.com/bespokedmc/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

13 regions in France.

เทศกาลห้ามพลาดในฝรั่งเศส

ไวน์มี่กี่ประเภท?