บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2017

My Project (1)

รูปภาพ
My Project " หน้าสวยกระจ่างใสด้วยแตงกวา " หลักการและเหตุผล              แตงกวา ใครหลายคนรู้จักกันในการนำมาประกอบอาหาร แต่นอกจากจะเป็นพืชที่สามารถนำมารับประทานได้แล้วนั้นใครจะรู้ว่าแตงกวามีประโยชน์อีกมากมาย วันนี้จึงดิฉันจึงขอมานำเสนอพืชชนิดนี้ที่ใครหลายคนรู้จักกันดีว่ามีสรรพคุณในการบำรุงรักษาผิวได้อย่างดี ที่สำคัญหาได้ง่าย ราคาถูก และไม่มีสารอันตรายอย่างครีมบำรุงผิวพรรณส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จุดประสงค์ 1.เพื่อศึกษาสรรพคุณของแตงกวาในการบำรุงผิว 2.เพื่อนำพืชสมุนไพรใกล้ตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ขั้นตอน สูตรที่ 1 รักษาสิว บำรุงผิวใส สิ่งที่ต้องเตรียม :   แตงกวา วิธีทำ  ปอกเปลือกแตงกวาให้สะอาดจากนั้นหั่นเป็นแว่นบางก่อนจะสับเป็นชิ้นละเอียดเล็กๆ หรือนำไปปั่นก็ได้ เสร็จแล้วนำแตงกวาไปแช่ตู้เย็น เมื่อเย็นแล้วให้นำมาพอกลงบนใบหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น สูตรแตงกวาพอกหน้านี้จะช่วยลดอาการสิวอักเสบ ช่วยลดเลือนความมันบนใบหน้า จึงสามารถป้องกันการเกิดสิวเม็ดใหม่ขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังทำให้รูขุมขนกระชับเล็กลงและบำรุงผิวหน้าให้เปล่งปลั่

แชมเปญ เคร่มองต์ หรือ ไวน์มีฟอง

รูปภาพ
ความเป็นมาของไวน์มีฟอง หรือ แชมเปญ เคร่มองต์ คนฝรั่งเศสจะเรียกไวน์มีฟองหรือแชมเปญ ว่า “ช็องปาญ” เพราะมีแหล่งผลิตที่แคว้นช็องปาญ (Champagne) ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น และถือว่าเป็นกฏหมายสากลที่อนุรักษณ์และคุ้มครองผู้ผลิตซึ่งหมายความว่าในโลกใบนี้แชมเปญต้องผลิตที่แคว้นช็องปาญเท่านั้นถ้ามีใครแอบเอาชื่อไปใช้ต้องโดนฟ้องแน่ๆนะคะ ไวน์มีฟองที่ผลิตที่อเมริกาจะมีชื่อเรียกว่า สปาร์คกลิ้งไวน์ ที่อิตาลีเรียกว่า สปูมันเต ที่ประเทศเยอรมัน เซคท์ เขตอื่นๆในฝรั่งเศสที่มีการผลิตไวน์มีฟองคล้ายๆแชมเปญแต่จะใช้ชื่ออื่นในการเรียกแทน เช่น เคร่มองต์ (Crémant) หรือแว็ง มูซเซอ ทำไมแชมเปญถึงต้องมีการผลิตที่แคว้นช็องปาญ ในประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น? จริงๆแล้วก็มีทั้งเหตุและผลที่สำคัญนะคะ เพราะสิ่งแรกที่กำหนดรสชาติของแชมเปญก็คือ “ ดิน ” ที่ใช้เพาะปลูกองุ่น ซึ่งใต้ดินในแคว้นช็องปาญจะมี ดินหรือหินปูนสีขาวคล้ายๆกับชอล์กที่ใช้เขียนกระดานดำปะปนอยู่ ซึ่งดินหรือหินปูนชนิดนี้พบว่ามีอยู่ในฉะเพาะแคว้นช็องปาญที่เดียวเท่านั้น และหินปูนชนิดนี้นี่เองที่เป็นตัวให้แร่ธาตุกับองุ่น ทำให้องุ่นที่นำมาทำแชมเปญมีรสชาติ

ไวน์มี่กี่ประเภท?

รูปภาพ
1.ไวน์ขาว ( White Wine ) หลายท่านอาจเข้าใจว่าไวน์ขาวทำมาจากองุ่นขาวเพียงอย่างเดียวแต่จริงๆแล้วสามารถใช้องุ่นแดงหรือองุ่นดำในการผลิตไวน์ขาวได้เช่นกัน โดยแยกเปลือกที่มี Pigment สีแดงออกแล้วนำเพียงน้ำองุ่นไปทำไวน์ ไวน์ขาวมักจะมีรสเปรี้ยวเด่น สดใส โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยการผลิตต่างๆ 2.ไวน์แดง  ( Red Wine ) กรรมวิธีการผลิตไวน์แดงไม่ได้แตกต่างจากไวน์ขาวเท่าใดนัก แต่สาเหตุที่ทำให้ไวน์แดงมีสีแดงนั่นเป็นเพราะมีการเติมเปลือกองุ่น ขั้วองุ่น รวมถึงเมล็ด เข้าไปในกระบวนการหมักด้วย ต่างจากไวน์ขาวที่คัดเปลือกและส่วนอื่นๆทิ้งไป นอกจากนั้นไวน์แดงยังถูกหมักในอุณหภูมิที่สูงเพื่อสกัดเอาสี รสฝาดของแทนนิน กลิ่นและรสออกมา ซึ่งจะมีความเข้มข้นแตกต่างกันไป ตามระยะเวลาการทิ้งเปลือกองุ่นไว้กับน้ำองุ่นในขั้นตอนการหมัก 3. ไวน์โรเซ่ ( Rose Wine ) ไวน์สีชมพูดอกกุหลาบ ผลิตขึ้นจากองุ่นแดงหรือองุ่นดำ แต่ในกระบวนการหมักเปลือกองุ่นหรือส่วนอื่นจะถูกทิ้งให้สัมผัสกัับน้ำองุ่นเพียงช่วงสั้นๆราว12-36 ชม.เท่านั้น นอกจากนั้น การผลิตไวน์โรเซ่ที่เป็นการนำไวน์แดงและไวน์ขาวมาเบลนด์เข้าด้วยกัน ก็เป

ไวน์โลกใหม่กับไวน์โลกเก่าแตกต่างกันอย่างไร?

รูปภาพ
ไวน์โลกเก่า (OLD WORLD WINES) คือไวน์ที่ ผ ลิตในประเทศแถบยุโรปทั้งหมด  ผลิตไวน์มาเกินกว่า 500 -600 ปีขึ้นไป อาทิเช่น  ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน โปรตุเกส ออสเตรีย ฮังการี โรมาเนีย เป็นต้น  การผลิตไวน์ยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิม ซึ่งต้องอาศัยผู้ผลิตไวน์ ที่มีประสบการณ์มาก มีกฎระเบียบทางราชการที่ค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องพันธุ์องุ่นที่ใช้ผลิตไวน์ และในเรื่องการปลูกองุ่น ผลผลิตองุ่น ผลผลิตไวน์ การหมัก การบ่มและกลิ่นรสของไวน์ ในปัจจุบันผู้ผลิตไวน์โลกเก่าได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยในการคัดเลือก ผสมข้ามพันธุ์องุ่น ได้พันธุ์องุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติตามต้องการ โดยต้องศึกษาอิทธิพลของสภาพภูมิประเทศ องค์ประกอบของดิน สภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพองุ่น ศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหมักและบ่มไวน์ในถังไม้โอ๊ค ไวน์โลกเก่า นั้นจะ ยึดอยู่กับหลักการดั่งเดิม (Tradition) จนเป็นประเพณีที่จีรังยั่งยืน มีการทำไวน์ด้วยวิธีการเก่าๆ สไตล์ของไวน์แบบเดิมๆ ถิ่นไวน์แห่งไหนเคยทำไวน์แบบใดก็ทำแบบเก่าซ้ำๆ ซากๆ มาจนชั่วลูกหลาน ไวน์โลกใหม่ (NEW WORLD WINES) ไวน์โลกใหม่ (New World Wines) คือไวน์ที่ ผล

ทำความรู้จักกับไวน์

รูปภาพ
ไวน์ (อังกฤษ: wine) ปกติหมายถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากน้ำองุ่น แต่ก็อาจใช้กับเครื่องดื่มที่ทำจากน้ำผลไม้อื่น ๆ เช่นกัน ไวน์ที่จะกล่าวถึงในที่นี้จะหมายถึงเฉพาะเครื่องดื่มจากน้ำองุ่นเท่านั้น ไวน์ เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเกิดจากการหมักน้ำตาลในองุ่น แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ ไวน์ขาว (White wine) และ ไวน์แดง (Red wine) ไวน์ที่ได้จากการผสมระหว่างไวน์ 2 ชนิดเรียก ไวน์สีกุหลาบ (Rose wine) หรือ ไวน์สีชมพู (Pink wine) ส่วนไวน์ที่มีการอัดก๊าซลงไป จะเรียกว่า สปาร์กลิงไวน์ (Sparkling wine) สปาร์กลิงไวน์ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ แชมเปญ (Champagne) ประวัติความเป็นมา เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีมาหลายร้อยปีแล้ว  มีการค้นพบโถโบราณบรรจุเมล็ดองุ่นไร่ซึ่งมีอายุนับเนื่องขึ้นไปกว่า 8,000 ปี ก่อนคริสตกาล นอกจากที่ประเทศอิหร่านแล้ว ยังมีการพบร่องรอยของเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ได้จากกรรมวิธีการหมักแบบเดียวกับไวน์ในสมัย 7,000 ปีก่อนคริสตกาล ทางตอนเหนือของประเทศจีน ในยุคอียิปต์โบราณ การเพาะปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบระเบียบมาก เทพต่างๆ ในตำนานเทพปกรณัม ทั

Les parfums

รูปภาพ
J'adore Dior COCO MADEMOISELLE Chanel Chance Chanel COCO NOIR Chanel SAUVAGE  Dior LA  NUIT  Lancome Miss Dior ประวัติความเป็นมาของน้ำหอมของฝรั่งเศส น้ำหอม มนต์เสน่ห์ที่ยากจะต่อต้าน ประวัติศาสตร์ในอดีตจนมาเป็นฝรั่งเศสเมืองแห่งน้ำหอมตลอดกาล ในประเทศฝรั่งเศส ยุคแห่งปรัชญาและประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม และยังเป็นยุคแห่งความโชติช่วงของแวดวงน้ำหอมด้วยเช่นกัน ในพระราชสำนักของพระเจ้าหลุย์ที่ 15 (LOUIS XV) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นราชสำนักแห่งน้ำหอม เครื่องหอมนานาชนิดไม่ได้ถูกนำไปใช้เฉพาะกับร่างกายเท่านั้น แต่ยังได้ถูกนำไปใช้เพิ่มความหอมให้กับเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า พัด ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเพื่อให้กลิ่นหอมตลบไปทั่วเขตพระราชฐาน ในขณะที่ BEAUX DE SENTEUR (เครื่องหอมชื่อดังในสมัยนั้น) ได้รับความนิยมอย่าง กว้างขวางมากขึ้น การแข่งขันในการผลิตเครื่องหอมได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงรูป แบบให้ซับซ้อนมากขึ้นเช่นกัน โดยมีการละลายเครื่องหอมกับน้ำส้มสายชูและเกลือ (VINAIGRE DE TOILETTE OR SALTS) เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรค และดับกลิ่นไม่พึง ประ